วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Rkoเองจ้า...^0^

Naviscope โปรแกรมเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ต

Naviscope โปรแกรมเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตโดยการกำจัดการแสดงป้ายโฆษณาออกไป
อีกหนึ่งวิธีการเพิ่มความเร็วของการเล่นอินเตอร์เน็ต ก็คือการเลือกโหลดและแสดงภาพต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ ที่เราได้เข้าไปชม โดยทำการเลือกแสดง เฉพาะภาพที่จำเป็นเท่านั้น ในส่วนของภาพที่เป็นป้ายโฆษณาต่าง ๆ หากเราสามารถ ปิดหรือยกเลิก ป้ายโฆษณาต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ให้มีการ ดาวน์โหลดและแสดง บนหน้าเว็บเพจที่กำลังชมอยู่นั้น ก็ช่วยทำให้เรา ไม่ต้องเสียเวลา รอการโหลดภาพ เหล่านั้นมาแสดง โปรแกรมที่จะมาช่วยงานนี้คือ โปรแกรม naviscope ที่สามารถทำการ ปิดแบนเนอร์ ที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ ไม่ให้แสดงบนหน้าเว็บ จึงเป็นการช่วยเพิ่มความเร็ว ของการเล่น อินเตอร์เน็ตได้อีกวิธีหนึ่ง
โปรแกรม naviscope นี้เป็นฟรีแวร์ สามารถหาดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากหน้า download ของเว็บไซต์ http://www.naviscope.com/ โดยเข้าไปและใส่อีเมล์ของเรา จากนั้นก็ทำการดาวน์โหลดมาเก็บไว้ใช้งานได้เลย หลังจากที่ทำการดาวน์โหลดได้แล้ว มาดูตัวอย่างการติดตั้ง และวิธีการตั้งค่าต่าง ๆ ของโปรแกรม naviscope กัน
เริ่มต้นหลังจากที่ทำการดาวน์โหลดมาแล้ว ก็ทำการติดตั้งโปรแกรมก่อน โดยการดับเบิลคลิกที่ไฟล์สำหรับการติดตั้ง


วิธีการติดตั้ง เริ่มต้น จะเป็นตามตัวอย่างดังภาพด้านบนนี้ ตรงนี้จะขอไม่แสดงรายละเอียด ในการติดตั้งแต่ละขั้นตอนนะครับ เพราะว่าไม่มีอะไรมาก คือหลังจากสั่งติดตั้งแล้ว ให้กดที่ปุ่ม Yes หรือ OK หรือ Next ไปเรื่อย ๆ จนเสร็จขั้นตอนเท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว จะได้ภาพตัวอย่างโปรแกรมดังนี้



ส่วนของ Toolbar จะแสดงรายละเอียดของสถานะต่าง ๆ

ส่วนของ setup จะเป็นการกำหนดต่าต่าง ๆ ของโปรแกรม
การตั้งค่าต่าง ๆ ของโปรแกรม naviscope
ต่อไปเป็นการตั้งค่าต่าง ๆ หลังจากที่ได้ทำการติดตั้งตัวโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นจาก เลือกที่เมนู Configure จากหน้าต่าง setup ตามภาพด้านบนนี้ จะได้หน้าต่างของ Naviscope - Setup ตามภาพต่อไปนี้

ในส่วนของการตั้งค่าต่าง ๆ ขอแนะนำให้ใช้ตามที่โปรแกรมเลือกมาให้อยู่แล้ว ยกเว้นว่าต้องการเลือกตามที่เราต้องการ ขอแนะนำเฉพาะค่าที่น่าจะเข้าไปตั้งใหม่ดังนี้
เลือกกดที่ป้าย Ad Blocking ซึ่งตรงนี้จะเป็นการเลือกชนิดของการ block ป้ายโฆษณา โดยกำหนดรูปแบบที่ต้องการดังนี้
(nothing) คือกำหนดให้ส่วนที่เป็น ป้ายโฆษณา ไม่ต้องมีการแสดงอะไรตรงนั้นเลย
(AD) คือกำหนดให้แสดงตัวอักษรคำว่า AD แทนส่วนที่เป็น ป้ายโฆษณา
The ad's description คือกำหนดให้แสดงคำอธิบายของโฆษณานั้นแทนภาพ
A box that load... คือกำหนดให้แสดงป้ายโฆษณา เมื่อเอาเมาส์ไปวางไว้ตรงตำแหน่งนั้นถัดลงไปจะเป็นช่องสำหรับใส่ค่าหน่วงเวลา เมื่อเอาเมาศืไปวาง และถัดไปเป็นการกำหนดขนาดและชนิดตัวอักษรครับ
ในส่วนตรงการกำหนดค่าของวิธีการแสดงโฆษณานี้ ความเห็นส่วนตัวของผม หากไม่กลัวเสียโอกาสในการชมโฆษณาต่าง ๆ ก็น่าจะเลือกให้เป็น (nothing) ไปเลยครับ เพราะว่าจะดูง่าย ๆ และสบายตาดี
ถัดไปให้กดเลือกที่ป้าย MTU/RWIN เพื่อกำหนดการปรับแต่งค่าของโมเด็ม ที่อาจจะช่วยเพิ่มความเร็วได้อีกนิดหน่อย

วิธีการเลือกก็ง่าย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก กดเลือกที่ Optimize MTU/RWIN ไปเลยครับ จากนั้นก็กดปุ่ม OK ครับ
การกำหนด Blocl & Filter เพิ่มเติม
หากใช้งานโปรแกรมนี้ไปแล้ว ยังรู้สึกว่า มีการแสดงป้ายโฆษณา ของบางเว็บไซต์มีอยู่ เราสามารถทำการเพิ่ม keyword ของป้ายโฆษณานั้น ๆ เพิ่มเข้าไป เพื่อให้โปรแกรมรู้จักและ ทำการปิดป้ายโฆษณานั้น ทิ้งออกไปได้ โดยการเลือก กดเมาส์ขวา ที่ไอคอนของโปรแกรมบน taskbar ด้านล่างขวามือ และเลือกที่เมนู Blocking.. ครับ


ตรงเมนูของการเลือก Block & Filter เราสามารถกำหนดชนิดและวิธีของการกำจัดป้ายโฆษณาต่าง ๆ ได้ ผมขอแนะนำให้ทดลองเลือกดู ตามตัวอย่างด้านบนนี้ครับ จากนั้น หากต้องการเพิ่มคำ หรือ keyword ของป้ายโฆษณา เพื่อให้โปรแกรมรู้จักและ ทำการปิดป้ายนั้น ๆ ได้ ให้กดที่ปุ่ม Ad Keywords ก่อน จะมีเมนูด้านล่างต่อท้ายเพิ่มขึ้นมา ให้ทำการใส่ คำ หรือ ad keywords ลงไป อาจจะเป็น URL หรือชื่อเว็บไซต์ ของป้ายโฆษณาที่ต้องการปิดก็ได้ จากนั้นกดที่ปุ่ม Add ก็เป็นอันเสร็จครับ กดปิดเมนูหน้านี้ได้เลย

ในส่วนของ Toolbar เมนูด้านบน หากไม่ต้องการให้โปรแกรมแสดงเมนู Toolbar ค้างไว้ก็สามารถปิดได้ดังนี้


โดยการกดเมาส์ขวาที่ Toolbar และเลือกที่เมนู Disable Toolbar ครับ และถ้าหากต้องการยกเลิกการทำงานชั่วคราว ก็สามารถทำได้ โดยการกด เมาส์ขวา ที่ taskbar menu ด้านล่างขวามือ

หากต้องการยกเลิกการทำงานชั่วคราว ก็เลือกที่เมนู Disable ครับ

สรุปโดยรวมแล้ว นับว่า naviscope เป็นโปรแกรม ที่ทำหน้าที่ป้องกันและ กำจัดป้ายโฆษณาต่าง ๆ ได้ดีโปรแกรมหนึ่ง ที่เมื่อทดลองใช้งานดู พบว่า มีส่วนช่วยทำให้การเล่นอินเตอร์เน็ต มีความเร็วมากชึ้นและลดความรำคาญ ที่ต้องไปคอยปิดหน้าต่าง ที่บางเว็บทำเป็น popup เปิดหน้าต่างใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ดี น่าพอใจมากเลยครับ
ข้อมูลจากcom-th.net

Sakura Mankai ... เทศกาล ชมดอกซากุระบานสะพรั่ง


ดอกซากุระ คือ ดอกเชอรี่ ชนิดหนึ่ง(Sakurambo- Cherry Blossom) ซึ่ง เป็นคนละพันธุ์กับที่เราทานกัน .. ดอกซากุระ เป็นสัญลักษณ์ ของดอกไม้ญี่ปุ่นทีเดียว ..เป็นที่ชื่นชอบขอคนทั่วไป มักจะมีรูปของดอกซากุระ ประดับตาม ข้าวของต่างๆ บ่งบอก ของความสดใส อบอุ่น สวยงาม ประณีต แบบหญิงสาว เจ้าสาว ฯลฯ ดอกซากุระ จะพร้อมใจกันบานในที่ อุณหภูมิประมาณ 25℃ เป็นสัญญานว่า .ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ และ ความอบอุ่นมาเยือน .. ซึ่งจะเป็นช่วง เดือน มีนาคม - เมษายน ในประเทศญี่ปุ่น .. ส่วน ที่โตเกียว และ จังหวัดใกล้เคียง จะบาน ราวๆวันที่ 10 เมษายน ของทุกปี ค่ะ ... การบานของดอกซากุระ ที่ญี่ปุ่น จะเริ่มบาน จากทางภาคใต้ ไล่เรื่อยๆขึ้นมาถึงภาคกลาง และ ต่อไปภาคเหนือ ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ก็จะร่วงหมดต้น( โดยจะมีฝนตกลงมาชะดอกทั้งช่อให้ร่วงเกือบหมดภายในชั่วคืน ) .. ดังนั้นคนญี่ปุ่นจะรีบใช้โอกาสนี้ ออกมาพบปะสังสรรค์ ร่วมกันชื่นชม ดอกไม้บาน และ กินเหล้า ฯลฯ กันอย่างสนุกสนาน ทั้งกลางวัน - กลางคืน หลังจากที่ต้องทนหนาวมาหลายเดือน... ..จึงขอนำภาพเกี่ยวกับเทศกาล และ ความงามที่ต้องตะลึง ของธรรมชาติ ส่งมาให้ชาวโลกได้ชื่นชม เพียงแค่ชั่วอาทิตย์ แล้ว ก็จากไป อีกเป็นปี กว่าจะกลับมาให้ได้ชมกันอีก ... ดอกซากุระ เป็นที่หวงแหน แก่คนทุกรุ่น เพราะต้นหนึ่งกว่าจะออกดอกได้สะพรั่งสวยงาม สว่างไสว เจิดจ้า ระยิบระยับ ทั้งกลางวัน-กลางคืน นั้น ต้องมีอายุร่วมร้อยปี .. คนรุ่นบรรพบุรุษ จึงได้พากันปลูกต้นซากุระ เรียงรายตามสวนต่างๆ เอาไว้ให้รุ่นลูกหลาน ได้ชมกัน ดังทุกวันนี้

โหลดภาพSakuraสวยๆที่นี้จ้า

ข้อมูลจากpantown

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

โปรแกรมแกะหา password ของไฟล์ .zip

Advanced ZIP Password Recovery โปรแกรมแกะหา password ของไฟล์ .zip
หลังจากที่ได้เขียน บทความเรื่อง การแกะหา password ของไฟล์ .zip ด้วยโปรแกรม UltraZipCracker แล้ว ได้รับคำแนะนำจาก หลาย ๆ ท่านที่ได้ทดลองใช้งานว่า โปรแกรมนี้ ทำงานได้ค่อนข้างช้า และยุ่งยากในการใช้งานพอสมควร พอดีได้ยินมาว่า ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ อีกหลายตัว ที่สามารถทำการแกะหา password ของไฟล์ .zip ได้ ดังนั้น หลังจากที่ได้ทดลองหา ดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ มาใช้งาน (โดยหาจากโปรแกรมที่ใช้งข้อมูลจากงานได้จริง) ก็ได้พบกับอีกโปรแกรมหนึ่ง ที่สามารถทำงานได้ค่อนข้างเร็ว และใช้งานได้ค่อนข้างง่ายครับ จึงนำมาแนะนำให้รู้จักกันไว้
โปรแกรมที่แนะนำคือ Advance Zip Password Recovery ซึ่งรุ่นที่ผมนำมาสาธิตนี้ เป็นเวอร์ชัน 3.00 โดยที่เวอร์ชัน ล่าสุดจะใหม่กว่านี้แล้วนะครับ แต่ในเวอร์ชันล่าสุดนั้น ยังเป็นแบบ Shareware ที่ไม่สามารถทำงานได้เต็มความสามารถ นอกจากจะทำการ เสียเงินลงทะเบียนก่อน ดังนั้น ขอแนะนำและแสดงวิธีการใช้งานในส่วนที่เป็นเวอร์ชัน 3.00 ที่ยังพอจะหามาใช้งานฟรี ๆ ได้แทนครับ
การใช้งาน เริ่มต้นจากหา ดาวน์โหลดโปรแกรม มาก่อน ทำการ Unzip และเก็บไว้ใน Folder ว่าง ๆ สักที่หนึ่งก่อน จากนั้น เมื่อต้องการใช้งาน ก็เพียงแค่เรียกไฟล์ azpr.exe ขึ้นมาครับ

ขั้นแรกของการใช้งาน ให้ทำการเลือกที่ไฟล์ .zip ที่ต้องการค้นหา password จากช่อง EncrytedZIP-file
เลือกวิธีการค้นหาแบบต่าง ๆ เช่น All caps latin หรือ All small latin หรือเลือกทั้งหมดก็ได้ โดยที่ส่วนนี้ จะเป็นการระบุชนิดของ การค้นหา ว่าจะทำการค้นหาพวกสัญญลักษณ์ต่าง ๆ ด้วยหรือไม่ ถ้าคิดว่า password ไม่มีสัญญลักษณ์ ก็ลองไม่เลือกดูก่อนครับ เพราะการทำงานจะเร็วกว่าการเลือกมาก แต่ถ้าหากไม่แน่ใจว่า password ที่ใส่ไว้จะมีสัญญลักษณ์ต่าง ๆ หรือไม่ ก็ให้ทำการเลือกทั้งหมดเลยครับ เพื่อความแน่นอนในการค้นหา
เมนู Length จะเป็นการกำหนดความยาวของ password ที่ต้องการค้นหา ให้ใส่ค่า minimum เป็น 1 ส่วนค่า maximum ก็เลือกใส่ตามที่คิดว่าจะเป็นจำนวนตัวอักษรของ password นั้น ๆ ถ้าไม่แน่ใจก็ใส่ไว้แยะ ๆ เช่น 20 เลยก็ได้ครับ
เมนู Auto Save จะเป็นการกำหนดการเก็บบันทึกการค้นหา เพราะถ้าหากต้องใช้เวลาการค้นหานาน ๆ เราสามารถเก็บไว้ก่อน และเมื่อเปิดเครื่องมาใหม่ ค่อยสั่งให้โปรแกรมทำงานต่อไปได้ครับ
เมนู Start from จะเป็นการกำหนด password ที่ค้นหาว่า เริ่มต้นจากที่อักษรใด ถ้าเป็นการค้นหาใหม่ก็ลบตัวอักษรออก เว้นว่างไว้เลยครับ เพื่อให้โปรแกรมเริ่มต้นจากแรกเลย
เมนูอื่นๆ ก็ทดลองเลือกใช้กันดูเอง แต่คงจะไม่มีอะไรมากครับ หลังจากเลือกค่าต่าง ๆ พร้อมแล้ว ก็กดที่ปุ่ม Start เพื่อเริ่มต้นการค้นหาได้เลย เวลาที่ใช้อาจจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับความเร็วเครื่องและจำนวนของตัวอักษรของ password ที่ถูกใส่มาไว้ครับ

ข้อมูลจากcom-th.net
Restoration ซอฟต์แวร์สำหรับใช้กู้ไฟล์ที่ลบทิ้งและ Empty Recycle Bin ไปแล้ว
หลังจากที่ได้แนะนำ การใช้งาน
Recycle Bin ไปแล้ว เชื่อแน่ว่า ยังจะต้องมีหลายท่าน ที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องของการลบไฟล์ และมักจะคิดเสมอว่า Recycle Bin นี้เป็นสิ่งที่เกะกะ และสิ้นเปลืองพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ เมื่อทำการลบไฟล์ทิ้งไปแล้ว ก็ชอบที่จะตามเข้าไปทำการ Empty เจ้า Recycle Bin อีกครั้งเสมอ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเลยนะครับ (บางคนเขาชอบสอนกันมาแบบนี้) ดังนั้น หากใครทำการลบไฟล์ และได้ลบ ถังขยะหรือ Recycle Bin ไปเรียบร้อยแล้วด้วย ต่อมา เกิดการเปลี่ยนใจ ก็ยังพอมีหวังด้วยโปรแกรม Restoration ตัวนี้
หลักการทำงานของโปรแกรม Recycle Bin
จากที่ได้บอกในเรื่องของการใช้งาน Recycle Bin ไปแล้ว ทุกครั้งที่ทำการลบไฟล์ทิ้งไปจากเครื่อง ระบบ Windows จะทำการ ย้ายไฟล์นั้น ไปเก็บไว้ใน Recycle Bin แทนการลบทิ้งไปจริง ๆ และเมื่อเราทำการ Empty Recycle Bin ไฟล์เหล่านั้น จึงจะถูกลบออกจากระบบอย่างถาวร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้อมูลที่โดนลบไปนี้ จะยังไม่ได้ไปไหน จะยังอยู่บนฮาร์ดดิสก์ ของเรานั่นเอง เพียงแต่จะเป็นการเก็บข้อมูล ที่ไม่มีการอ้างชื่อแน่นอน และจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลใหม่ทันที ที่ต้องการใช้งาน พื้นที่ตรงส่วนนั้น ดังนั้น ถ้าหากเราลบไฟล์ทิ้งไปแล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลใหม่มาเขียนทับ ก็ยังมีโอกาสกู้กลับคืนมาได้ แต่ถ้าหาก เรามีการใช้งาน ฮาร์ดดิสก์นั้น ต่อไปเรื่อย ๆ จะทำให้โอกาสที่ตำแหน่งของไฟล์ที่ลบไปแล้ว จะโดนเขียนทับลงไปด้วยข้อมูลใหม่ จึงมีโอกาสกู้ไฟล์กลับคืนมา ได้น้อยกว่ากัน ดังนั้น ยิ่งไม่ทำอะไรกับฮาร์ดดิสก์ ก็ยิ่งจะมีโอกาสกู้ไฟล์คืนมาได้มากขึ้นครับ

ก่อนอื่น ก็ทำการหาดาวน์โหลด Restoration มาก่อน โดยสามารถหาได้จาก
http://www.geocities.jp/br_kato/index.html โดยที่ซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นฟรีแวร์ ที่มีให้ใช้งานได้ฟรีครับ หลังจากดาวน์โหลดมาแล้ว ทำการเรียกไฟล์ที่ได้มา เพื่อแตกไฟล์ ออกมาเก็บไว้ก่อน แล้วจึงเริ่มต้นการใช้งาน (โปรแกรมนี้ไม่ต้องติดตั้งลงเครื่อง เพียงแค่แตกไฟล์ออกมาก็เรียกใช้งานได้เลย)

หน้าตาของโปรแกรม Restoration ครับ จะเป็นตามภาพ


ก่อนอื่น เลือกไดร์ฟที่ต้องการจะกู้ไฟล์กลับมา โดยเลือกจากช่อง Drives ทางขวามือ แล้วกดที่ปุ่ม Search Deleted Files



โปรแกรมจะทำการค้นหาไฟล์ที่ถูกลบอยู่สักครู่หนึ่ง และจะมีหน้าต่างมาถาม ก็กด No ไปเลยครับ



จากนั้น ก็เข้าไปทำการเลือกหรือค้นหาไฟล์ ที่ต้องการจะกู้คืนมา ถ้าโชคดี เมื่อพบแล้ว ก็กดเลือกที่ไฟล์นั้น และกดที่ปุ่ม Restore by Copying ทางขวามือ เพื่อทำการ copy ไฟล์ที่ถูกลบกลับคืนมา



เลือกไดร์ฟที่จะเก็บไฟล์ที่กู้กลับมาได้ ความจริงแล้ว เราจะนำไฟล์ที่กู้ได้ไปเก็บไว้ที่ไหนก็ได้ แต่แนะนำให้ทำการเก็บไฟล์ไว้ ในไดร์ฟอีกตัวต่างหากจะดีกว่า เพราะว่าเป็นการป้องกันการเขียนไฟล์ทับลงไปบนพื้นที่ ที่เก็บไฟล์ ส่วนที่โดนลบไปแล้ว และกำลังต้องการกู้ข้อมูลออกมาใหม่ กดที่ปุ่ม Save ครับ



กรณีที่ยังยืนยันการเก็บไฟล์ไว้ในไดร์ฟเดียวกับที่กำลังทำการกู้ ก็จะมีหน้าต่างยืนยันอีกครั้ง กดที่ yes ถ้าต้องการครับ

เท่านี้ เราก็สามารถทำการกู้ไฟล์ที่ลบทิ้งไปและทำการ Empty Reclcle Bin ไปแล้วกลับคืนมาได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า ไฟล์ที่กู้คืนมาได้นี้ อาจจะไม่สมบูรณ์ หรืออาจจะไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้ครบ ขึ้นอยู่กับการใช้งานฮาร์ดดิสก์ด้วยครับ อย่างที่ได้อธิบายไว้แต่ต้นแล้ว

ข้อมูลจากcom-th.net

การใช้คอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี

การใช้คอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี
ปัจจุบัน "คอมพิวเตอร์" กลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่คนทำงานอย่างเราไม่ใช้ ไม่ได้แล้ว ดังนั้นควรรู้วิธีการใช้คอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องด้วย วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...
เริ่มจากแสงสว่างจากตัวคอมพิวเตอร์สามารถปรับให้เหมาะสมกับดวงตา จะปรับขนาดไหนไม่มีข้อกำหนด เพียงแต่จัดแสงให้ตาเรารู้สึกสบาย และ จะใช้สกรีนติดหน้าจอเพื่อลดความจ้าของแสงก็ได้ หรือลดแสงแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีน้อยมากจากจอ และสกรีนเหล่านี้ ก็มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
ส่วนการป้องกันไม่ให้ตาเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ ปวดหลัง หรือแสบตา ก็ควรนั่งในท่าที่เหมาะสม และห่างจากจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 20-30 นิ้ว สกรีน คอมพิวเตอร์ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 20-26 องศา จัดเอกสารที่ต้องใช้ดูประกอบไว้ใกล้กับจอเครื่องคอมพิวเตอร์ จะได้ลดการส่ายศีรษะไปมามาก และลดการเปลี่ยนระยะการดูของตา ในระยะที่ต่างกันมาก
อย่าให้มีฝุ่นเกาะจอคอมพิวเตอร์ ควรทำความสะอาดเสมอ พักสายตา พักอิริยาบถทุก ๆ 20 นาที เพื่อป้องกันตาเมื่อย กะพริบตาบ้าง ถ้ารู้สึกแสบตา หรือใช้น้ำตาเทียมหยดเป็นครั้งคราว
จอภาพคอมพิวเตอร์ต้องโฟกัสชัดเจน ตัวหนังสือ ภาพในจอให้ปรับให้ชัดเสมอผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี และจำเป็นต้องใช้แว่นอ่านหนังสือ ควรใช้แว่นอ่านหนังสือที่เหมาะสม และไม่ควรใช้แว่น 2 ชั้น หรือแว่นไม่มีชั้น เพราะจะทำให้ต้องเงยหน้าอ่านข้อความในจอตลอด ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ปวดต้นคอเพิ่มขึ้นอีก
จะใช้คอมพิวเตอร์ครั้งต่อไปก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้

ข้อมูลจาก kapook

บ่อน้ำพุร้อน Onsen

ประเทศญี่ปุ่น มีภูเขาไฟมากมายที่ยังคุอยู่มากมายหลายลูก แม้แต่ภูเขาที่มีชื่อเสียงอย่างภูเขาฟูจิ ก็เป็นภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่จนกระทั่งยุคกลางด้วยเหตุนี้จึงมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ทั่วทุกแห่งของประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบการอาบน้ำพุร้อนมาตั้งแต่สมัยโบราณจนกลายเป็นวิถิชีวิตของชาวญี่ปุ่นเรื่อยมา หลายแห่งเป็นน้ำพุร้อนบริสุทธิ์ (ในบางพื้นที่เมื่อแก่นโลกเย็นตัวลง และปล่อยแก๊สและไอน้ำออกมาจนกระทั่งกลายเป็นน้ำพุร้อน)
กฏหมายว่าด้วยเรื่องสถานพักผ่อนน้ำพุร้อนบัญญัติขึ้นในปีโชวะที่ 23 ระบุไว้ว่า 1. อุณหภูมิของน้ำจะต้องสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส 2. น้ำพุร้อนจะต้องมีแร่ธาตุผสมอยู่เป็นจำนวน 1 กก.ดังนั้น ถ้าหากแหล่งน้ำนั้นมีมาตรฐานตรงกับทั้งสองข้อ ก็ถือได้ว่าเป็นน้ำพุร้อน
สถานที่อาบน้ำพุร้อนมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแร่ธาตุในน้ำ ให้คุณสมบัติใน การรักษาต่างกัน รวมถึงสี และกลิ่น ส่วนมากน้ำพุร้อนจะมีธาตุกัมมะถัน บ่อน้ำพุร้อนมีทั้งในร่มและกลางแจ้ง แต่ละที่เล็กใหญ่ต่างกันไป บ่อกลางแจ้งบางแห่งตั้งอยู่ระหว่างภูเขา หุบเขา หรือเลียบฝั่งแม่น้ำ มีทั้งแบ่งชายหญิงและบ่อรวม
บ่ออาบน้ำประเภทอื่นๆเช่น บ่อทราย ซึ่งผู้อาบจะถูกกลบด้วยทรายร้อน บ่อโคลน และห้องอบไอน้ำ นอกจากนี้ยังมี อะชิยุ เป็นบ่อน้ำร้อนตื้นๆ สำหรับแช่เท้า พบได้ตามทางเดินของสปารีสอร์ทน้ำพุร้อนและสามารถแช่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การได้พักค้างคืนที่ เรียวกัง (ที่พักแบบญี่ปุ่น) ที่มีบริการน้ำพุร้อน ถือว่าเป็นประสบการณ์การอาบน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการมาเยือนญี่ปุ่น โดยปกติแล้ว การมาเยือนเรียวกังที่มีบริการน้ำพุร้อนจะเริ่มจากการอาบน้ำก่อนรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารเย็นแบบญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ รวมถึงอาหารขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะอาบน้ำอีกครั้งก่อนเข้านอนและก่อนรับประทานอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น
ถ้าหากรู้สึกอึดอัดกับการอาบน้ำร่วมกับผู้อื่น ก็สามารถใช้บริการแบบ คะชิคิริ บ่ออาบน้ำส่วนตัว หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า คะโซคุบุโระ ซึ่งเป็นบ่ออาบน้ำสำหรับครอบครัว
การปฏิบัติระหว่างอาบน้ำพุร้อนในที่ร่ม ก่อนอื่นถอดเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อและเก็บเสื้อผ้าพร้อมกับผ้าเช็ดตัวลงในตระกร้าที่จัดเตรียมให้ ตู้เก็บเสื้อผ้ามักจะเป็นตู้หยอดเหรียญ การอาบน้ำพุร้อนแบบญี่ปุ่นมักจะเปลือยจนหมด และไม่อนุญาตให้ใช้ชุดว่ายน้ำ อย่างไรก็ตาม สามารถนำผ้าผืนเล็กเข้าไปในห้องอาบน้ำได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเมื่ออาบน้ำพุร้อนกลางแจ้ง
หลังจากเข้าห้องอาบน้ำแล้ว ล้างตัวในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้ ปกติแล้วไม่ควรยืน จากนั้นเข้าไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน สังเกตว่าน้ำอาจจะร้อนมาก (ประมาณ 40-44 องศาเซลเซียส) ถ้าหากรู้สึกว่าร้อนเกินไป พยายามลงแช่ตัวช้าๆ และเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด หลังจากแช่น้ำซักพัก ให้ขึ้นอาบน้ำถูสบู่ เช่นเดียวกับห้องอาบน้ำแบบญี่ปุ่น ควรระวังไม่ให้สบู่ลงไปผสมกับน้ำแร่ในบ่อ ปกปิดร่างกายด้วยผ้าผืนเล็กและลงแช่น้ำแร่อีกครั้ง เมื่อแช่ตัวเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องล้างตัวอีกครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากน้ำแร่อย่างเต็มที่
บ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม บางแห่งล้อมรอบด้วยภูเขา เช่น ชิเรโทโกะ และใน ภูมิภาคโทโฮคุ ชาวนามักจะอาบน้ำพุร้อน ในช่วงฤดูหนาวหลังการเก็บเกี่ยว หรือเวลาว่างจากการทำงาน เพื่อเป็นการฟื้นฟูสุขภาพภายหลังจากการทำงานหนัก
น้ำตกคะมุอิวักกะ เป็นกระแสน้ำอุ่นที่ไหลจากภูเขาที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ บนเกาะฮอกไกโด นักท่องเที่ยวต้องขึ้นเขาประมาณ 20 นาที จะพบกับน้ำตก ใต้น้ำตกลงมาเป็นบ่อน้ำแร่
ฮอกไกโด โนโบริเบะทจึ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นที่ตั้งของ โนโบริเบะทจึ ออนเซน, คะรุรุซึ ออนเซน, โนโบริเบะทจึ รินไก ออนเซน
นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ที่หลากหลาย เช่น ทะเลสาบ แอ่งน้ำ เป็นต้น จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติชิโกทจึ-โทยะ น้ำแร่ของที่นี่มีคุณสมบัติช่วยในการรักษาโรค เป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในโลก
อะคิอุออนเซน ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของจังหวัดมิยะหงิ เลียบชายฝั่งแม่น้ำนะโทริงะวะ ซึ่งไหลจากอ่าวเซนไดลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นน้ำพุร้อนที่เก่าแก่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6
ถึงแม้ย่านอะคิอุ จะอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเมืองเซนได แต่ร้อยละ 90 ของเมือง เป็นภูเขาและป่า นอกจากนี้ มีโรงแรมสมัยใหม่มากมาย ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวชะอุ่ม
สปารีสอร์ทฮาวาเอียน ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบฤดูร้อนตลอดทั้งปี มีพื้นที่กว้างเท่ากับหกเท่าของโตเกียวโดม รวมทั้งสวนสนุกอีก 5 แห่งด้วยกัน
เอโดะ โจวะ โยอิจิ เป็นสวนสนุกที่เน้นการอาบพุร้อนธรรมชาติกลางแจ้ง โดยมีลักษณะเด่นคือมีโรงอาบน้ำที่เลียนแบบมาจากโรงอาบน้ำสมัยเอโดะ
บ่อน้ำพุร้อนยักษ์ บ่อหลักมีความยาวถึง 50 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับเรือใบขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า "เรือสวรรค์"
สไลเดอร์ มีด้วยกัน 5 ช่อง สามารถเล่นได้สามแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบท่อสไลเดอร์ สไลเดอร์เดี่ยว หรือสไลเดอร์เป็นคู่ รวมทั้งเลือกระดับความชันของสไลเดอร์ได้ด้วยเช่นกัน
อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ ในจังหวัดคะนะงะวะ อยู่ห่างจากเมืองโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 2 ชม. สามารถชมหน้าผาสูง หุบเขาลึก ลำธารใส ชายฝั่งทะเลสาบอะชิ และบ่อน้ำพุร้อนมากมายหนึ่งในที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
เนื่องจากมีน้ำพุร้อนที่มีลักษณะเด่นแตกต่างกันถึง 17 แห่ง ฮาโกเน่จึงได้ชื่อว่า "ฮาโกเน่ 17 โตะ" (17 น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง แห่งฮาโกเน่) เช่น ยูโมโตะ, โทโนซะวะ, โซโคคุระ, ดะกะชิมะ, คิกะ และ อะชิโนยุ ทั้งหมดตั้งอยู่เลียบแม่น้ำฮะยะ บริเวณศูนย์กลางของแคว้นฮาโกเน่ ยกเว้น อะชิโนยุ
ฮาโกเน่ โควะคิเอน ยูเนซัน เป็นสปารีสอร์ทน้ำพุร้อน และสวนสนุกน้ำ ในบรรยากาศ และทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของฮาโกเน่ เป็นการผสมผสานระหว่างประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของออนเซน กับกิจกรรมและการบริการสันทนาการทางน้ำ
ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นสถานที่ที่มีน้ำพุร้อนที่มีคุณภาพดีอยู่เป็นจำนวนมากในฮาโกเน่ ความพิเศษของฮาโกเน่ โควะคิเอน ยูเนซัน คือ แบ่งสถานพักผ่อนที่มีบริการน้ำพุร้อน และสวนสนุก ออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ
โซนแรกเรียกว่า ยูเนซัน สปา รีสอร์ท เหมาะสำหรับผู้คนทั่วไปและครอบครัว ที่ต้องการใส่ชุดว่ายน้ำลงในแช่น้ำ นอกจากนี้ฮาโกเน่ยังได้ขึ้นชื่อว่ามีรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น
สปาเดดซี เป็นน้ำที่ผสมเกลือจากทะเลเดดซีในตะวันออกกลาง เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายและจิตใจ โดยลอยตัวอยู่ในอ่างน้ำร้อน เกลือจากเดดซีอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
สปาสาเก เป็นถังไม้ขนาดใหญ่ที่บรรจุสาเกญี่ปุ่นแท้ กล่าวกันว่าสาเกช่วยให้ผิวสวย อีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาได้ในประเทศญี่ปุ่น
สปาชาเขียว มีส่วนผสมของชาเขียวอยู่จริง ตกแต่งด้วยกาน้ำชาขนาดใหญ่สูง 2 เมตร ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น น้ำชานี้มาจากตีนเขาทันซะวะ และฮาโกเน่ ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นที่ที่มีอากาศเหมาะแก่การปลูกชา
ชาที่ปลูกในแถบนั้นจะมีกลิ่นหอมและมีสารที่ช่วยป้องการการเกิดเนื้องอก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี
สปากาแฟ เป็นสปาพิเศษที่หาได้แห่งเดียวที่ยูเนซัน เป็นกาแฟจริงที่นำมาทำให้เป็นน้ำพุร้อน กล่าวว่ากาแฟมีคุณสมบัติในการรักษาแผลเป็น และเพิ่มความงามให้กับผิวพรรณ และกลิ่นของกาแฟช่วยให้กระปรี้กระเปร่า
สปาไวน์ เป็นไวน์แดงจริง ตกแต่งด้วยขวดไวน์ใหญ่สูง 3.6 เมตร การลงแช่ในไวน์ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับร่างกาย กล่าวกันว่าพระนางคลีโอพัตราชื่นชอบในการอาบน้ำด้วยไวน์
อีกโซนหนึ่งเรียกว่า โมริ โนะ ยุ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนได้โดยไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ และดื่มด่ำกับการบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ
คินุงะวะออนเซน ตั้งเลียบฝั่งแม่น้ำในหุบเขา ซึ่งทอดยาวระหว่าง ภูเขาไดฮุยกะซัน และ ภูเขาชาคะงะทาเคะ เหนือ แม่น้ำคินุงะวะ เป็นศูนย์กลางของ เมืองโทจิหงิ ซึ่งมีการเปิดสปาเป็นครั้งแรก เมื่อ 300 ปีก่อน ทิวทัศน์ของหุบเขาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
เมืองอะตะมิ และ เมืองอิโตะ ตั้งอยู่ที่ปลาย คาบสมุทรอิซุฮันโต สองเมืองนี้หันหน้าออกสู่ อ่าวซะงะมิ เป็นย่านโรงแรมทันสมัย ที่พักแบบญี่ปุ่นที่มีประวัติเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ตั้งเรียงรายติดกับแหล่งบันเทิงมากมาย ส่งให้ทั้งสองเมืองนี้กลายเป็นหนึ่งในสปารีสอร์ทชั้นนำของญี่ปุ่น
เกโระออนเซน ตั้งอยู่ทางตะวันออกกลางของจังหวัดกิฟุ ติดกับชายแดนเมืองนางะโนะ เป็นสปาที่รู้จักกันดีตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 จัดว่าเป็นหนึ่งในสามแหล่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงในเรื่องบรรเทาโรคไขข้อ ไปตาม เส้นทางยุเมจิน ยุเมงุริ เทงะตะ จะพบบ่อน้ำพุร้อนได้มากกว่า 3 แห่ง หลายทศวรรษที่ผ่านมา น้ำพุร้อนจำนวนมากของ คุซะทจึ ออนเซน ในจังหวัดกุมมะ ได้รับการขนานนามว่า เป็นน้ำพุร้อนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในญี่ปุ่น แม้ไม่ดีที่สุด น้ำในรีสอร์ทส่วนใหญ่ผุดเป็นฟองขึ้นไปในบริเวณ "ยูบาทาเกะ" (ทุ่งน้ำร้อน)
บริเวณศูนย์กลางของเมือง เชื่อกันว่าน้ำพุร้อนนี้ช่วยรักษาโรคทุกชนิด ยกเว้นโรคทางใจ
โดโงะออนเซ็น เป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุด ตั้งอยู่บริเวณ ชานเมืองมะทจึยะมะ บนเกาะชิโคคุ สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ คือ โดโงะออนเซ็น ฮอนกัน ที่อาบน้ำสาธารณะทำจากไม้สมัยเมจิ นับตั้งแต่ปี 1894 นอกจากการอาบน้ำ ยังมีการเสิร์ฟชา และขนมหวานญี่ปุ่นที่มีความซับซ้อนและสง่างาม ภายในห้องส่วนตัวซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายหลังจากการอาบน้ำ
เมืองเบปปุ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนหลักของญี่ปุ่น ในจังหวัดโออิตะ ไม่มีรีสอร์ทใดที่สามารถผลิตน้ำพุร้อนได้มากกว่าที่นี่ ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวของเบปปุ ยังมี "เฮลส์" บ่อน้ำพุร้อนจัดซึ่งไม่เหมาะแก่การลงแช่ จิโงคุ หรือ "เฮลส์" ในเมืองเบปปุ เป็นน้ำพุร้อน 9 แห่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เหมาะสำหรับชื่นชมมากกว่าการลงแช่
เมืองยุฟุอิน ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของจังหวัดโออิตะ เป็นส่วนต่อขยายจากเขตแดนของ อ่างเก็บน้ำยุฟุอิน ซึ่งมี แม่น้ำโออิตะงะวะ เป็นแหล่งกำเนิด ภูเขายุฟุ รู้จักกันในชื่อ บุงโงะฟุจิ
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำ โรงแรมที่สร้างมาเป็นเวลานาน พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเอกลักษณ์, แกลลอรี่ส์ขนาดเล็ก, ร้านอาหารที่ทันสมัย และร้านกาแฟ ทั้งหมดผสมผสานรวมอยู่ใน ย่านยุฟุอินโจ สร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหลไปทั่วบริเวณ
อิบุซึกิออนเซ็น เป็นน้ำพุร้อนรวม กลางแจ้ง ซึ่งไม่เหมือนน้ำพุร้อนทั่วไปที่มีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ห้องเดียว แต่ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนที่ไม่ใช้น้ำ อิบุซุกิออนเซ็นเป็น การอบทรายร้อน
ซึ่งผู้มาใช้บริการต้องฝังร่างกายอยู่ในทรายร้อน และผ่อนคลายนานเท่าที่ต้องการ แม้ว่าน้ำพุร้อนนี้จะรวมชายหญิง แต่สุภาพสตรีไม่จำเป็นต้องรู้สึกอายเพราะทุกคนต้องใส่ชุดยูกาตะ
ยุดะนะคะ และชิบุ ออนเซ็น เป็นน้ำพุร้อนสองแห่งที่โด่งดังมากที่สุดกว่าครึ่งหนึ่ง ในน้ำพุร้อน 12 แห่งที่รวมอยู่ใน เมืองยะมะโนอุจิ ทางตอนเหนือของเมืองนางะโนะ บริเวณนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่อง "ลิงหิมะ" ซึ่งเป็นลิงญี่ปุ่นที่ชอบน้ำร้อนธรรมชาติเช่นเดียวกับผู้มาเยี่ยมชม
น้ำพุร้อนที่มนุษย์สามารถใช้ได้จะพบเมื่อลงจากหุบเขาต่อไปอีก โคระคุคัน เป็นเรียวกังที่มีบริการน้ำพุร้อน ที่ทำจากไม้ ตั้งอยู่ในบริเวณด้านล่างของสวนลิง
ข้อมูลจากSanook