

โอซาก้า (Osaka)
โอซาก้า เป็นเมืองธุรกิจที่สำคัญและมีการเจริญเติบโตมาอย่างยาวนาน โอซาก้าได้รับสมญานามมากมาย เช่น เมืองแห่งสายธาร เพราะเต็มไปด้วยแม่น้ำลำคลอง หรือจะเป็นนครพันสะพาน เนื่องจากมีสะพานเกือบพันแห่ง แม่น้ำและสะพานเหล่านี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าและวัตถุดิบเข้าออกโอซาก้า ซึ่งเป็นประตูส่งออกที่สำคัญของญี่ปุ่นโอซาก้ามีระบบขนส่งรถไฟและรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่ จึงทำให้เดินทางเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย จุดท่องเที่ยวจึงมักเริ่มที่สถานีรถไฟโอซาก้า (Osaka Station) ในอุเมดะ เพราะรถไฟส่วนใหญ่ยกเว้นชินคังเซ็น จะวิ่งมาถึงสถานีนี้ ใต้สถานีรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่มีแหล่งชอปปิ้งถึงสามช่วงสถานีรถไฟให้เดินสำรวจกันจนเมื่อย แหล่งตรงนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้า และร้านอาหารมากมายนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อถึงกันหมดจากสถานีโอซาก้าเมื่อเดินขึ้นมาบนถนน จะเห็นถนนสายหลักของโอซาก้า คือ มิโดซุจิ (Midosuji) ซึ่งทอดยาวไปทางเหนือและใต้ เมื่อข้ามมาอีกฝากหนึ่งของแม่น้ำแล้วเดินลงทางใต้ก็จะพบเกาะแคบๆชื่อว่า นาคาโนะชิมะ (Nakanoshima) อันเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการและบริษัทสำคัญๆรายใหญ่ของโอซาก้า จากถนนมิโดซุจิ ถ้าเดินเลียบแม่น้ำไปทางตะวันออก ผ่านหน้าศาลาว่าการเมืองโอซาก้าและศาลาประชาชน ซึ่งเป็นอาคารอิฐสีแดงโบราณน่ามอง เมื่อข้ามฝั่งมาจะพบกับ พิพิธภัณฑ์เซรามิกแห่งตะวันออก (Museum of Oriental Ceramics) ซึ่งจัดแสดงเครื่องถ้วยชามกระเบื้องจากจีนและเกาหลีของอาตากะอันเป็นที่รู้จักกันดี ถัดมาคือสวนสาธารณะนาคาโนะชิมะโคเอ็น (Nakanoshima Koen) มีสวนกุหลาบและต้นหลิวให้ชมทั้งสองข้างทาง บาทวิถีจะเลาะไปตามแม่น้ำจนถึงด้านตะวันตกของถนนมิโดซุจิ ที่นั่นก็จะได้พบกับตึกธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan) อันสวยงาม ถ้าเดินย้อนกลับมาถนนมิโดซุจิ แล้วเดินลงทางใต้ก็จะถึงย่านฮนมาจิที่มีสี่แยกถนนมิโดซุจิตัดผ่านถนนฮนมาจิ เหนือขึ้นไปจากสี่แยก คือ เซ็มบะ (Semba) ย่านขายส่งเสื้อผ้าเครื่องประดับ จากนั้นเมื่อเดินต่อไปทางใต้ตามถนนมิโดซุจิจนถึงนางาโฮริ (Nagahori) ซึ่งเป็นสี่แยกขนาดใหญ่ ในแถบนั้นจะได้พบกับตึกโซนี่ทาวเวอร์ (Sony Tower) อยู่ตรงปากทางเข้าถนนชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ถนนย่านชอบปิ้งชั้นนำของโอซาก้าที่ทอดยาวต่อเนื่องไปทางใต้ จนถึงห้างทาคาชิมายะและสถานีรถไฟนัมบะ แถบนี้เป็นจุดที่น่าหลงใหลที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เพราะมีย่านบันเทิง โคตมโบริ (Dotonbori) ตั้งอยู่ ถนนชินไซบาชิมาสิ้นสุดที่คลองโดตมโบริอันเป็นจุดเริ่มต้นของถนนเอบิซุซุจิ (Ebisusuji) ตรงบริเวณนี้ถ้ามองไปทางซ้ายจะเห็นตึก คิรินพลาซ่าบิลดิ้ง (Kirin Plaza Building)สถานีรถไฟนัมบะ (Namba Station) อยู่ห่างจากโดงุยะซุจิเพียงสองช่วงตึก มีนัมบะซิตี้ (Namba City) และเรนโบว์ทาวน์ เป็นอาเขตชอปปิ้งใต้ดินขนาดใหญ่มีรถไฟใต้ดินสำคัญสามสายวิ่งผ่าน และยังเป็นจุดต่อรถไปสนามบินนานาชาติคันไซสะดวกที่สุดแห่งหนึ่ง โดยมีรถไฟเจอาร์เวสต์และสายนังไกวิ่งจากสถานีนัมบะไปยังสนามบินปราสาทโอซาก้าโจ (Osaka-jo) เป็นจุดที่มีผู้ไปเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง โดยเดินไปตามบาทวิถีจนถึงปลายเกาะนาคาโนะชิมะด้านตะวันออก แล้วเดินไปทางเหนือข้ามสะพานเท็นจินบาชิ (Tenjin-bashi) ตรงป้อมตำรวจ แล้วเดินขึ้นไปทางเหนืออีกจะพบ ศาลเจ้าเท็มมังงุจิงงุ (Tenmangu Jingu) ซึ่งสร้างถวายเทพแห่งความรู้ เมื่อเดินตามบาทวิถีริมแม่น้ำราวหนึ่งกิโลเมตร ก็จะถึงโรงกษาปณ์โอซาก้า (Osaka mint) และพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณ์ จากนั้นข้ามสะพานคาวาซากิบาชิ (Kawasaki-bashi) ไปยังปราสาทโอซาก้าโจที่อยู่ข้างหน้า ปราสาทแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับโอซาก้าในกาลข้างหน้า หอคอยปราสาทผงาดเหนืออุทยานกว้างและกำแพงหิน เป็นการจำลองแบบจากของเดิมที่สร้างโดย โตโยะโตมิ ฮิเดโยชิ เมื่อปี 1585 ปราสาทมหึมาหลังนี้สร้างเสร็จโดยใช้เวลาสามปี โดยระดมคนจำนวนหลายหมื่นมาก่อสร้าง โอซาก้าบิสซิเนสปาร์ก (Osaka Business Park) อยู่ใกล้กับปราสาท เป็นอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจเข้าไปชมเพื่อดูว่าอนาคตของโอซาก้าน่าจะเป็นเช่นไร นักวางแผนธุรกิจต้องการให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางสำคัญแห่งหนึ่งของโอซาก้า ภายในบริเวณมีตึกระฟ้า โรงหนัง ศูนย์ชอปปิ้ง ร้านอาหาร และโรงแรมนิวโอตานิ (New Otani Hotel)อุเมดะ สกายบิลดิ้ง (Umeda Sky Building) เป็นอีกจุดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยตึกที่สูงถึง 173 เมตร ท่านสามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน และบรรยากาศรอบๆเมืองที่งดงามได้ที่นี่ บนดาดฟ้าของตึกซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมความงามของเมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน ที่ชั้น 39 ของตัวอาคารจะมีสวนลอยฟ้า (Floating Garden) ที่เปิดให้เข้าชมโดยเสียค่าธรรมเนียม 700 เยน ที่ชั้นล่างสุดของตัวอาคาร ท่านจะได้พบกับตลาด Takimi Koji ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างดี
โหลดข้อมูลเพิ่มเติ่ม
ประเทศที่Rkoอยากไปมากที่สุดก็คือJapanจ้า.........(ผู้ชายหล่อดี55+)..........ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบประเทศJapan.....ชอบเองยังไม่รู้เลยว่าชอบอะไร55+ คือว่าที่ชอบประเทศนี้ก็คงเป็นเพราะเป็นประเทศที่สวยและน่าอยู่มีการแต่งตัวที่หลุดโลกดี55+ อยากไปอนเซ็นซักครั้งนึงในชีวิตอะนะ
วันหนึ่งรีบอร์นได้โดนบาซูก้าทศวรรศยิงใส่แต่กลับไม่มีรีบอร์นในอีก 10 ปีข้างหน้ามาปรากฏขึ้นแถมรีบอร์นในปัจจุบันยังหายไปอีก สึนะจึงไปบังคับให้แรมโบ้ยิงบาซูก้าใส่ตัวเองเพื่อเรียกแรมโบ้หนุ่มออกมาถามเรื่องราวในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่สึนะกลับโดนบาซูก้ายิงเสียเอง เมื่อสึนะรู้สึกตัวอีกทีก็พบตัวเองในโลงศพ แล้วสึนะก็ได้เจอกับโกคุเทระในอีก 10 ปีข้างหน้า โกคุเทระให้ไปจัดการคนที่ชื่อ อิริเอะ โชอิจิ และเขาก็ได้มอบกระดาษอันเล็กไว้ให้สึนะเพื่อต้องการที่จะบอกความลับอะไรสักอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดในโลกอนาคตจบ โกคุเทระก็กลับกลายเป็นตัวเองเมื่อ10ปีก่อนและต่อมาก็ได้พบกับบุคคลลึกลับคนนึงพวกสึนะพยายามต่อสู้แต่ความสามารถต่างกันคนละยุคทำให้ไม่สามารถเอาชนะได้จนเกือบจะถูกฆ่าแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็บอกความจริงว่าเธอชื่อ รัล มิลจิ ซึ่งเป็นผู้ดูแลนอกแก๊งค์ของวองโกเล่ และพวกสึนะก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดจาก รัล มิลจิ ว่า ศูนย์บัญชาการของวองโกเล่แฟมิลี่ถูกพวกมิลฟีโอเล่ แฟมิลิ่ถล่มไปแล้ว โดยผู้นำก็คือเบียคุรัน วองโกเล่รุ่นที่9หายสาบสูญส่วนสึนะนั้นก็ได้เป็นวองโก่เล่รุ่นที่10 อัลโกบาเลโน่ตายหมดแล้ว รีบอร์นด้วย ในระหว่างที่จะเดินทางไปฐานทัพลับพวกสึนะต้องมาเจอกับ โกร่า สทูราโอ มอสก้ารุ่นที่ 2 ระหว่างที่สึนะตกที่นั่งลำบาก ยามาโมโตะในอีก 10 ปีข้างหน้ามาช่วยได้ทันและ รัล มิลจิ จึงได้รู้ว่าฐานทัพลับที่รู้มาเป็นข่าวลวง ยามาโมโตะ จึงเปิดทางเข้าออกของฐานทัพลับจริงให้ที่สร้างเสร็จเกือบ 60%แล้ว สึนะได้พบกับรึบอร์นและได้รู้ว่า มิลฟีโอเล่ แฟมิลิ่ได้ลอบสังหารประชากรในเมืองไปจำนวนมากรวมทั้งพ่อของยามาโมโตะ รุ่นที่9ก็หายสาบสูญ พ่อสึนะและแม่สึนะอยู่ที่อิตาลีแต่ยังมีทางเดียวก็คือ รวบรวมผู้พิทักษ์ทั้ง 6 คน ที่แยกย้ายกันไปให้กลับมารวมตัวกันให้ได้
ระหว่างนั้นอิริเอะ โชอิจิได้มาถึงญี่ปุ่นแล้ว ทางด้านพวกสึนะกำลังตามผู้พิทักษ์เป้าหมายแรกก็คือ ฮิบาริ เคียวยะ คนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มผู้พิทักษ์ของวองโกเล่รุ่นที่ 10 โดยมีเบาะแสคือ นกฮิเบิร์ด นกของ ฮิบาริ เคียวยะ แล้วยามาโมโตะก็บอกว่า พวกสึนะมาพร้อมกับความหวังคือ วองโกเล่ริง และได้รู้ว่าอนาคตคนที่ทำลายคือ วองโกเล่รุ่นที่ 10 หรือสึนะนั่นเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้เกิดการแย่งชิงแหวนและได้พบกับพวกแรมโบ้ที่กำลังถูกพวกเบล็ดสเปลของ มิลฟีโอเล่ แฟมิลิ่ พวกสึนะจึงเข้าไปช่วยและได้พบกับฮารุในอีก10ปีข้างหน้าส่วนเคียวโกะกระเด็นเข้าไปในตึกสึนะจึงเข้าไปช่วยในที่ยามาโมโตะกำลังต่อสู่อยู่นั้น อยู่ดีๆทุกคนก็กลับเป็นคนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รวมทั้งเคียวโกะที่อยู่กับสึนะด้วย ทางด้านโนซารุแห่งเบล็ดสเปลได้จัดการพวกยามาโมโตะจนสลบเหลือแต่โกคูเทระเพียงคนเดียว ส่วนสึนะได้พบทาซารุแห่งเบล็คสเปลด้วยเคียวโกะกำลังตกอยู่ในอันตราย สึนะจึงไปสู้กับมาซารุแต่ไม่สามารถสู้ได้แต่ด้วยความที่อยากจะปกป้องทุกคนไฟที่แหวนจึงจุดประกายขึ้นมาทำให้สามารถเอาชนะทาซารุได้สำเร็จ ส่วนทางด้าน โกคูเทระคิดจะใช้ระเบิดแต่ระเบิดทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้จึงใช้พลังใจของตนเองทำให้ไฟที่แหวนติดขึ้นมาแล้วจึงเปิดกล่องได้ปืนจึงได้ใช้ต่อสู้โดยนัดแรกโดยที่โนซารุไม่เป็นไรเลยแต่ไฟที่เท้าก็ดับลงแค่แปบเดียว โกคุเทระจึงโจมตีอีกครั้งเพียงนัดเดียวก็สามารถเอาชนะโนซารุได้
ต่อมา พวกสึนะได้รับสัญญาณ SOS จาก ฮิเบิร์ด[Hibiri Bird) นกของฮิบาริ และเคียวโกะได้ไปตามหาพี่ชายและถูกเพื่อนสนิทช่วยไว้ ส่วน ทาง ยามาโมโตะและโกคุเดระ ได้พบกับ แกมม่า หัวหนาและพี่ ของ โนซารุและมาซารุ ยามาโมโตะและโกคุเดระแพ้ไป แล้วในขณะนั้น ฮิบาริได้เข้ามาช่วยไว้และใช้กล่อง และทอนฟา จัดการ แกมมาในสภาพปางตาย ส่วนพวก สึนะและ รัลมิลจิ ได้พบ กับเคียวโกะและพากลับฐานวองโกเล่ได้สำเร็จ ตัดมาที่พวก มิลฟิโอเล่กำลังประชุมกันอยู่ เบียคุรันได้พูดถึง สิ่งหนึ่งคือ จุกนม แหวน วองโกเล่ และ แหวนมาเล่ย์ จะทำให้เกิด สิ่งที่เรียกว่า ทรูรินิเซน ขณะนั้นเบียคุรันกลับมาที่สำนักงานของ ไวสเปล ได้ถามกับเลโอ ซึ่งเป็นเลขาส่วนตัว ว่า จะส่งใครไป ระหว่าง หน่วยที่ 8 และ 11 เลโอได้ตอบว่า ส่งหน่วยที่ 11 ไปจัดการกับ ตัวตุ่น (วาเรีย) และให้กุโละคิชเนีย ไปจัดการกับ โกคุโย กุโละได้ไปจัดการกับ โคลม ในขณะที่ต่อสู้อยู่นั้น นกฮูกของกุโละได้ถูก โรคุโด เข้าสิงและสั่งให้โคลมหนีไป จนโคลมหนีจนมุกแล้วกุโละตามมาทั้น จึงสั่งให้หมึกพิรุณจัดการฆ่าโคลมซะ ในขณะนั้นเอง หนวดของหมึกพิรุณ ถูก เข็มพิษ 6 แท่งแทงและถูกตัดโดย Wolf Channel สามง่ามของโคลมถูกแย่งไป และชาย 3 คน ที่พูดขึ้นว่า เหมือนเมื่อก่อนเลย ทำให้โคลมร้องไห้ออกมา ชาย 3 คนนั้นคือ จิคุสะ เคน และ มุคุโรนั่นเอง มุคุโรชนะ กุโละได้ และโคลมได้ถูกเรียวเฮช่วยไว้กลับมาที่ฐานวองโกเล่และเป็นฉากคุยกัน เรียวเฮบอกสึนะว่า ทางวองโกเล่และแฟมมิลี่พันธมิตร วางแผนจะทำสงครามกับมิลฟิโอเล่ ซึ่งหมายความว่า แฟมมิลี่ของ ดีโน่คาบัคโรเน่ก็จะเข้าร่วมด้วย สึนะรู้ว่า ดีโน่ปลอดภัยและเข้าร่วมสงครามใน 5วันต้องฝึกกันอย่างหนัก ส่วนทาง มิลฟิโอเล่ โชอิจิ ได้บอกกุโละ ซึ่งบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถทำอะไรได้นอกจาก มองและหายใจและคิด อิริเอะลืมว่าสามารถอ่านความคิดคนได้กลับไม่ใช้ กุโละคิดในใจว่า อิริเอะ มีสายสืบในพวกเรา อิริเอะกลับไปนอนในห้องเล่น Laptop และคิดว่า ทำไมคุณเบียคุรัน ถึงอารมณ์ดีตลอดเวลาเลยนะ จากการบันทึกการสนทนาของตนและพบกับชายคนนึง ที่อยู่ในห้องเบียคุรัน ตัดมาทางเบียคุรัน คุยกับ เลโอเรื่องที่ ส่งหน่วยของกุโละไป เลโอเผยตัวตนเป็น มุคุโร และต่อสู้กับเบียคุรัน มุคุโร่แพ้ และทำให้โคลมอาการสาหัสมาก หลังจากนั้น เบียคุรัน คุยกับ อิริเอะอิริเอะบอกว่า มีสายลับนั่นคือเลโอ เบียคุรันบอกเลโอเป็น ผู้พิทักสายหมอกของวองโกเล่ และจัดการไปแล้ว ต่อมาอิริเอะได้รับรายงานจากหมอว่า อานสายตาของ กุโละที่ ขยับตาเป็นตัวอกษร ว่า ติดเครื่องติดตามไว้ที่เท้าของโคลม และได้รับคำสั่งให้เป็นผู้บัญชาการโดยเบียคุรันซึ้งตอนนี้ อิริเอะสามารถสั่ง แบล็คสเปลได้ จึงเรียกประชุม มิลฟิโอเล่สาขาญี่ปุ่นมา ให้จัดการกับ วองโกเล่ และทันใดนั้น ขณะกำลังจะมีผู้คัดค้าน ชายผู้นึงพูดขึ้นว่า ข้าคือ อัศวินเงามายา (ชื่อว่า เจนคิชิ) "ข้าได้รับคำสั่งจากท่านเบียคุรันให้ข้ามาคุ้มครองท่านอิริเอะ หากผู้ใดคิดต่อกรกับท่านอิริเอะได้ลิ้มลองคมดาบข้าแน่" และอิริเอะสั่ง มิลฟิโอเล่ทั้งหมดไปบุกฐานวองโกเล่ทันที และทันใดนั้นขณะที่กำลังโจมตี มิลฟิโอเล่ที่กำลังโจมตีวองโกเล่ ถูกฮิบาริ มาขวางทางไว้ ส่วน สึนะกับผู้พิทักได้บุกไปที่ฐานมิลฟิโอเล่เพื่อไม่ให้การเสียสละของฮิบาริเปล่าประโยชน์ หลังจากที่สึนะบุกเข้าไปในฐานทัพลับโดยมีรัล มิลจิ , สึนะ , ยามาโมโตะ , โกคุเดระ , เรียวเฮ ซึ่งบุกเข้าไปทางห้างฯใต้ดินนามิโมริ ผ่านท่อเข้าไปและเมื่อถึงช่วงกลางท่อ มีเซ็นเซอร์ รัลมิลจิจึงใช้ของที่ได้จากเจ็นนีนี่ ซึ่งหยุดเซ็นเซอร์ได้แปปเดียว แล้วทั้งหมดก็ผ่านไปได้ แต่ต้องเจอกับเลเซอร์ชุดใหญ่ ยามาโมโตะ จึงจัดการฟันท่อทิ้ง แล้วลงมาด้านล่าง พบกับศัตรูคนที่ 1 ซึ่งใช้สายฟ้าเป็นหลัก มีสัตว์กล่องคคือหมูป่า แต่สึนะก็ชนะได้ง่ายดาย ทั้งหมดจึงเดินทางต่อไป ทำให้ต้องสู้กับศัตรูคนที่ 2 คือ Ginger Bread นักเวทมนตร์์ที่ใช้ตุ๊กตา ซึ่งรอบนี้รัล มิลจิไปสู้เอง หลังจากนั้น รัลมิลจิก็โดนแมงมุมของจินเจอร์เบรด ปางตาย แต่ว่าโชคดีที่จุกนมเกิดส่งอแสงจ้า ทำให้รัล มิจมีพลังขึ้นมาและฆ่า จินเจอร์เบรด (ตุ๊กตา) ตายในที่สุด และหลังจากนี้ สึนะต้องไปสู้กับ มอสก้า 4 ตัว อีกครั้งหนึ่ง สึนะปราบได้ 1 ตัว และ อีก 2 ตัวถ่ายพลังไปให้ อีกตัวหนึ่ง เกดิเป็น คิงมอสก้า มีพลังมหาศาล สึนะใช้ X Burner แต่ไม่สำเร็จจึงร่วงไปกับพื้น หลังจากนั้นคนควบคุม มอสก็ออกมา ชื่อ สแปนเนอร์ ตอนแรก ทำท่าจะยิง แต่ไม่ได้ยิงพร้อมช่วยสึนะใช้ X Burner ให้สำเร็จ ระหว่างที่สึนะสู้อยู่ พวกยามาโมโตะ ได้เจอกับห้องห้องหนึ่ง ซึ่งเปิดอยู่และเจอศัตรูคนที่ 3 ใช้งูเป็นสัตว์ และขี่พรมเหมือนอาลาดิน แต่เรียวเฮก็ใช้หมัดของตัวเองต่อยงูจนตาย ระหว่างนั้น อิริเอะ ได้เข้าไปในห้องควบคุม Melone Base (ชื่อฐานทัพลัพมิลฟิโอเล่) ทำให้แต่ละบล็อกโดนแยกจากกัน โดยโกคุเดระ + เรียวเฮ ถูกแยกจาก ยามาโมโตะ + รัลมิลจิ ทั้ง 2 ทีม จึงแยกไป ยามาโมโตะ ได้เข้าไปในห้องห้องนึง ซึ่งมีแต่ท่อเต็มไปหมด พร้อมเจอศัตรู คนที่ 4 ซึ่งใช้บูมเมอร์แรง ทำให้ยามาโมโตะใช้ดาบไม่ได้ จึงฟันท่อทิ้งหมด แล้วศัตรูปาบูมเมอร์แรงมาโดนถังสี ยามาโมโตะจึงรู้ว่ามี 2 คน ทำให้ทั้ง 2 คนเผ่นหนีไป ส่วนฝั่งเรียวเฮ ได้สู้กับ คาปูชิโน ตาแก่ที่มีสัตว์ประหลาดเป็นวุ้นคล้าย ๆ ปลาหมึก ยามาโมโตะใช้สัตว์ของตัวเอง แต่โดนสัตว์วุ้นกินซะก่อน ยามาโมโตะเองก็โดนเช่นกัน แต่ยามาโมโตะใช้กล่องได้จึงทำให้วุ้นระเบิด แล้วผมของคาปูชิโน ก็หายไป เผ่นราบไปตามระเบียบ แล้งหลังจากนั้น ก็พบกับ Gamma รอบนี้เรียวเฮออกไปสู้ แต่ปางตายกลับมา โกคุเดระ จึงจัดการแก้แค้นเอง ทำใหู้อูริ (สัตว์ของโกคุเดระ) กลายเป็นแมวตัวใหญ่ (คิดว่าเสือมากกว่า) แต่ก็เป็นตัวเล็กเหมือนเดิม ทั้ง 2 คนจึงสู้กันอย่างบ้าระห่ำ แต่ก็ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ ระหว่างนี้ สึนะจึงฝึกกับสแปนเนอร์ เจ็นนีนี่ ได้ส่งภาพ 3 มิติของรีบอร์นไปช่วยสึนะระหว่างฝึกใช้ X Burner แต่โชคไม่ดีระหว่างฝึกรอบที่ 4 ในเครื่องสร้างภาพนั้น เครื่องเกิดชำรุด จากการเคลื่อนบล็อกของฐาน ทำให้ ศัตรูที่แข่งแกร่งที่สุด เป็นโปรแกรมมอนสเตอร์สำหรับฝึกที่อิริเอะส่งมา สู้กับสึนะ แต่สึนะสู้ไม่ไหว โชคดีที่พาสึนะออกมาทัน ในระหว่างนั้น ยามาโมโตะก็เข้าไปสู้กับ เจนคิชิ แต่พ่ายแพ้ ทำให้ฮิบาริ ต้องมาสู้ต่อ แต่ฮิบาริก็โดนเจนคิชิ จัดการ ทำให้ฮิบาริกลับเป็นช่วง 10 ปีที่แล้ว ระหว่างนั้น โครมและลูกน้องของฮิบาริ รวมไปถึง แรมโบ้และอี้ผิง ก็มาช่วย แต่ ฮิบาริกลับโมโหมากกว่าเก่าเพราะถูกหยาม จึงจะไล่ ลูกน้องตัวเองออกจาก กรรมการคุมกฎ แต่เชื่อในคำพูดของลูกน้องจึงทำให้เพิมความโกรธและ เปิดกล่องเม่นได้ และเม่นในกล่องนั้นกลับทำหนามตำมือฮิบาริ เม่นจึงตกใจที่ทำให้เจ้านายตัวเองบาดเจ็บจึงไม่สามารถควบคุมพลังตัวเองได้และขยายตัวขึ้นจนหนามของเม่นแทงไปรอบๆบริเวณกล่องที่พวกฮิบาริยื่นอยู่ และก็ส่งผลให้อิริเอะซึ่งคิดจะย้ายกล่องย้ายไม่ได้เนื่องจากกล่องรอบห้องทดลองของอิริเอะนั้นถูกหนามของเม่นฮิบาริตำจนไม่อาจเคลื่อนย้ายได้ ทำให้กล่องที่ฮิบาริรวมไปถึงคนอื่นๆเริ่มถล่ม ทำให้ทั้งหมดวิ่งหนีออกไปและถูกอิริเอะจับตัว สึนะผ่ากล่องต่างๆที่เป็นทางผ่านไปยังห้องทดลองจนไปถึงกล่องสุดท้ายก็พบกับเจนคิชิซึ่งนำแหวนนรกออกมาใช้ และสึนะก็สามารถชนะและเข้าไปในห้องทดลองได้ แต่เมื่อสึนะเข้าไปก็กลับพบว่าเพื่อนๆทั้งหมดถูกอิริเอะจับตัวเอาไว้ในห้องซึ่งมีแก๊สที่ทำให้หลับเปิดอยู่ และล้อมรอบด้วยกำแพงที่เป๋นนนาโนคอมโพซิสจึงไม่สามารถหลุดออกสมาได้ และอิริเอะได้เสนอข้อแลกเปลี่ยนให้นำแหวนวองโกเล่ทั้งหมดและกล่องทั้งหมด มาแลกกับเพื่อนของสึนะทุกคน และสึนะก็พบว่าตัวสึนะและเพื่อนๆทั้งหมดในยุคนั้นไม่ได้กลับไปในสิบปีที่แล้ว พวกเขาถูกเก็บไว้ในห้องแลบนั้นด้วยเช่นกัน แต่แล้วการแลกเปลี่ยนก็ถูกขัดขึ้นด้วยผู้หญิงคาแบลลโลสองคนที่ได้รับคำสั่งมาจากเบียกคุรันว่าจะไม่มีการคุยกันกันอีก พวกเธอยื่นปืนไปที่สึนะ คาเบลโลทั้งสองสลบลงไปกองกับพื้นเพราะอิริเอะเป็นคนยิงกระสุนที่ทำให้หลับไปซักพัก เหตุการ์ณนี้ทำให้ทุกคนตกอยู่ในอาการมึนงง อิริเอะบอกว่าตัวเองเป็นพันธมิตรกับวองโกเล่ และบอกความจริงทั้งหมดว่าเขาเป็นคนส่งพวกสึนะมายังโลกอนาคตเพื่อจะได้รับการฝึกฝนในเวลาสั้นๆ และทำให้เก่งขึ้น ตามคำสั่งของสึนะในยุคนั้น หลังจากนั้น เบียคุรันได้ออกมาบอกกับสึนะว่า หกบุปผาที่ครอบครองแหวนมาเล่และแหวนมาเล่ทั้งหกวงนั้นเป็นของปลอม และได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการกับสึนะโยชิ และให้เวลาพวกสึนะไปฝึกฝนตนเอง โดยได้ให้คำใบ้เป็นเกมที่เคยเล่นกับโชอิจิในสมัยก่อน จากนั้น โชอิจิและสปาน่าได้เข้ามาอยู่ในวองโกเล่ตามคำเชิญของรีบอร์นและสึนะ ทั้งสองช่วยกัยจัดการฐานทัพมาเล่ที่ญี่ปุ่น ทางด้านพวกสึนะที่ได้หยุดพัก ก็ไปเยี่ยมโรงเรียนของตนเอง ที่โรงเรียนนามิโมริซึ่งสภาพเหมือนเดิมทุกประการ ฮิบาริได้พบกับดีโน่บนดาดฟ้าของอาคารเรียน ส่วนจางนีนิก็ได้ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ให้สึนะ
อาหารเกาหลีนั้นเองที่Rkoชอบมากที่ชอบก็เพราะว่าได้ไปกินอาหารเกาหลีแท้ๆ ที่ร้านอาหารเกาหลีในกรุงเทพอะนะ~~^0^~~
วันนั้นได้กินพุลโกกีหรือว่าเนื้อย่างซี่โค้รงเกาหลีนั้นเองอร่อยสุดไปเลยและก็ยังมีกิมจิอืม...ไอ้กิมจินี้อะนะมันก็เหมือนกับผักดอกบ้านเราอะนะแต่ว่ามันต่างกันตรงที่ว่าคนเกาหลีเค้าจะใส่พริกและก็เครื่องปรุงใหมันมีรสเผ็ดอะนะ~~วันนั้นก็กินไปหลายอย่างอยู่นะแต่จำชื่อมันได้แล้วอะ 55+
จากมะตูม http://toom33.blogspot.com
จากกุ้งhttp://gungii.blogspot.com
รูปกุ้งคะ
จากตุ้ม http://toommin.blogspot.com
Favourite [Video]
Summer Vacation
จากเฟินร์ http://twister-tasmanian.blogspot.com
Marry YoU...
ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! (「家庭教師ヒットマンREBORN!」, Katekyō Hittoman Ribōn!, 家庭教師ヒットマンREBORN!?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องและภาพโดย อากิระ อามาโนะ มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ซาวาดะ สึนะโยชิ ชื่อเรียก สึนะ เด็กนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนนามิโมริทีไม่มีความโดดเด่น และไม่มีความสามารถทางการเรียนหรือกีฬา ถูกตั้งฉายา ว่า "สึนะจอมห่วย" หรือ "เจ้าเห่ยสึนะ" จนกระทั่ง "รีบอร์น" ซึ่งมองดูเผิน ๆ เหมือนเป็นเด็กทารก มาเป็นครูฝึกพิเศษจาก อิตาลีโดยมีอาชีพหลักเป็นนักฆ่ามือของวองโกเล่ แฟมิลี่ มาเฟียแห่งอิตาลี วัตถุประสงค์อันแท้จริงของรีบอร์นไม่ใช่เพียงการสอนหนังสือ แต่เพื่อฝึกให้ สึนะเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียรุ่นที่ 10 ของวองโกเล่ แฟมิลี่ เนื่องจากเขาเป็นทายาทโดยตรงของผู้ก่อตั้งวองโกเล่ แฟมิลี่ การต่อสู้ของสึนะจึงเริ่มขึ้น
ภาคฝึกฝน
ซาวาดะ สึนะโยชิ เป็นเด็กม.ต้นที่ไม่ได้เรื่องเลยซักนิด เนื่องจากไม่เคยทำอะไรเองเลยสักนิดจนถูกเรียกชื่อว่า "สึนะจอมห่วย" วันหนึ่ง สึนะก็ได้พบกับ เด็กชายท่าทางประหลาดคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นครูสอนพิเศษที่แม่ของสึนะจ้างมาชื่อว่า "รีบอร์น"มาจากอิตาลี สึนะไม่ยอมรับว่ารีบอร์นซึ่งดูเป็นทารกอยู่ จะเป็นครูสอนพิเศษได้ จนกระทั่งถูกยิงด้วย "กระสุนดับเครื่องชน" ที่กลางแสกหน้า ทำให้สึนะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องตาย และรู้สึกเสียใจว่าถ้าหากพยายามสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะ อย่างเอาเป็นเอาตาย เธออาจจะยอมรับรักของเขาก็ได้ ทันทีที่คิดเช่นนั้น ไฟดับเครื่องชนก็ถูกจุดขึ้นที่หน้าผากของสึนะ
เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดออกเหลือแต่กางกางใน และเขาก็วิ่งไปสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะที่เดินอยู่กับรุ่นพี่โมจิดะ อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยพลังที่เหลือเชื่อ ผลจากการสารภาพรักครั้งนี้คือเคียวโกะตกใจจนพูดไม่ออก แต่เพื่อนทุกคนคิดว่าสึนะวิตถาร เพราะวิ่งมาสารภาพรักทั้งที่สวมแต่กางเกงใน จากนั้นสึนะจึงยอมรับว่ากระสุนดับเครื่องชนของรีบอร์นมีพลังวิเศษ และรีบอร์นก็ประกาศว่าหน้าที่ที่แท้จริงของเขาคือ การฝึกให้สึนะเป็นหัวหน้าของ "วองโกเล่ แฟมิลี่" ที่เป็นแก๊งค์มาเฟียขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงมากในอิตาลี
รีบอร์นบอกว่าวองโกเล่ แฟมิลี่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน หัวหน้าคนปัจจุบันคือรุ่นที่เก้า และสึนะจะต้องเป็นรุ่นที่สิบต่อไป โดยหัวหน้ารุ่นแรกคือทวดของทวดของสึนะ เป็นผู้ก่อตั้งวองโกเล่ขึ้น และล้างมือมาอยู่ญี่ปุ่น
หลังจากสึนะแสดงวีรกรรมสารภาพรักในชุดชั้นใน รุ่นพี่ชมรมเคนโด้ที่แอบชอบเคียวโกะรู้สึกไม่พอใจสึนะ จึงคิดจะให้สึนะขายหน้า โดยให้สึนะประลองเคนโด้ด้วยและวางแผนแกล้งไม่ให้ทำอิปป้งได้ ตอนแรกสึนะไม่กล้าสู้ แต่ต่อมาก็นึกขึ้นได้ว่าถึงจะแพ้แต่ก็จะกลับไปสู้ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่ สึนะวิ่งเข้าใส่ในชุดกางเกงในก็ทำอิปป้งด้วยการถอนเส้นผมของรุ่นพี่ออกทั้งหัว (ป้งแปลอีกอย่างได้ว่าเส้นผม) ทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจในแรงฮึดกับมุกของสึนะ และเคียวโกะก็คุยกับสึนะเป็นครั้งแรก
ผลจากการชนะรุ่นพี่ ทำให้เพื่อน ๆ ชวนสึนะเล่นวอลเล่ย์บอล ช่วงแรกสึนะคิดว่าจะให้รีบอร์นยิงกระสุนช่วย แต่รีบอร์นบอกว่าถ้ายิงโดยไม่มีอะไรคาใจก็ตายจริงแน่ สึนะจึงหนีไป แต่ก็กลับมาด้วยความรับผิดชอบ ในที่สุดรีบอร์นก็ช่วยด้วยการยิงกระสุนดับเครื่องชนที่อื่น จนสึนะชนะได้ ความไม่ได้เรื่องของสึนะอยู่ในสายตาของ "โกคุเดระ ฮายาโตะ" ผู้มาจากอิตาลี ทำให้โกคุเดระไม่ยอมรับสึนะเป็นหัวหน้าของวองโกเล่ จึงท้าประลองโดยโกคุเดระใช้ระเบิดเป็นอาวุธ แต่หลังจากโกคุเดระทำระเบิดที่จุดแล้วหล่น และสึนะในโหมดดับเครื่องชน ได้ช่วยดับระเบิดให้จนช่วยชีวิตโกคุเดระไว้ โกคุเดระจึงยอมรับสึนะเป็นวองโกเล่รุ่นที่สิบ และเข้าเป็นแฟมิลี่คนแรกของสึนะ
จากผลงานของสึนะที่เริ่มก่อวีรกรรมมากขึ้น (โกคุเดระมีส่วนที่ทำให้วีรกรรมยิ่งโดดเด่น เช่น การระเบิดสนามของโรงเรียน) ทำให้ยามาโมโตะ ทาเคชิ นักเบสบอลของโรงเรียนสนใจเขา ยามาโมโตะมีปัญหากับการเล่นเบสบอลจึงมาปรึกษาสึนะ สึนะบอกให้พยายามซ้อม ยามาโมโตะจึงซ้อมจะแขนหักและเสียใจมากคิดฆ่าตัวตายโดยโดดตึกเรียน สึนะเข้าไปห้ามจนยามาโมโตะเริ่มคิดตก แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้ยามาโมโตะร่วงลงไป สึนะโดดตามไปช่วยโดยรีบอร์นสนับสนุนด้วยกระสุนดับเครื่องชน ทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตทั้งที่ตกตึกมาด้วยกัน ยามาโมโตะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของสึนะ
สึนะได้รู้จักกับแรมโบ้ นักฆ่าที่เป็นเด็กอายุห้าขวบ ที่มาลอบสังหารรีบอร์นแต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกลายเป็นเด็กในบ้านสึนะ และอี้ผิง นักฆ่าที่มาลอบฆ่าสึนะด้วยความเข้าใจผิดเนื่องจากสายตาสั้น ภายหลังได้มาอาศัยในบ้านสึนะ ทำให้สมาชิกในบ้านมีเพิ่มขึ้น และก่อเรื่องปวดหัวให้สึนะมากขึ้น รวมถึง "เบียงกี้" พี่สาวของโกคุเทระ นักฆ่าที่ทำให้อาหารเป็นพิษที่คิดจะมาฆ่าสึนะตลอดเวลาเพื่อพารีบอร์นกลับไป แต่ความที่เบียงกี้ชอบรีบอร์นมากจึงรับคำ ไม่ฆ่า สึนะอีก จนมาถึงตอนที่ ฟูตะ นักจัดอันดับแรงกิ้งที่แม่นยำที่สุด โดยมาเฟีย ไล่ล่าขอรายชื่อ เพื่อตามล้างบางแฟมิลี่อื่น ต้องให้สึนะมาช่วย จนต้องมาอยู่ด้วยกันอีก
การท้าทายจากมุคุโร่
หลังจากที่เริ่มการฝึกไปได้ไม่นาน "มุคุโร่" ได้นำนักฆ่าหลายคนเข้าทำร้ายเด็กนามิโมริ 1ในนั้นคือ ซาซางาวะ เรียวเฮ สึนะจึงเข้าไปหา หลังจากที่กำลังออกจากห้องของเรียวเฮ ก็ได้พบกับคุวาซาเบะที่นอนซมอยู่บนเตียงฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน หางของเลอ้อนก็หลุดออก และเนื่องจากการที่มุคุโร่ส่งนักฆ่าหลายคนมาทำร้ายเด็กโรงเรียนนามิโมริ ฮิบาริจึงไปจัดการกับมุคุโร่เพราะความโกรธ แต่กลับแพ้ไม่เป็นท่าเพราะโรค"ซากุระโซซัดโซเซ"ที่เมื่ออยู่มองดอกซากุระแล้ว จะยืนไม่ขึ้น เนื่องจากโดน "ไทเด้นซ์ มอสคิวโต้"ของ ด.ร จามาล ในขณะเดียวกัน ขณะที่โกคุเทระกำลังเที่ยวอยู่ก็มาเจอ1ในนักฆ่าของมุคุโร่"จิคุสะ"โดยบังเอิญ ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น จิคุสะนั้นได้เพลี้ยงพล้ำต่อโกคุเทระ แต่ขณะเดียวกันก็โดนพิษจากอาวุธของเขา"โยโย่"เช่นเดียวกัน ทำให้ต้องไปที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนนามิโมริ หลังจากที่สึนะออกจากห้องพยาบาลไปแล้ว สึนะก็ได้พบว่าเลอ้อนกลายเป็นดักแด้ไปแล้ว จากนั้นรีบอร์นก็บอกให้ไปถล่มพวกมุคุโร่ และบอกว่ากระสุนดับเครื่องชนเหลืออยู่แค่นัดเดียวโดยให้ยามาโมโตะ,โกคุเทระ และเบียงกี้ไปด้วย แต่ถึงอย่างไร พวกสึนะก็ไปที่โกคุโยแลนด์ เพื่อปะทะกับมุคุโร่ พวกสึนะได้ปะทะกับนักฆ่าทั้งหมด โดยยามาโมโตะเจอกับเคน เบียงกี้เจอกับ M.M จนได้พบกับมุคุโร่ ในการต่อสู้ครั้งนั้น ยามาโมโตะโดนลูกเหล็ก จนสลบไป โกคุเทระบาดเจ็บ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนนัดสุดท้ายใส่สึนะทำให้เอาชนะมาได้ชนะและรู้ว่าเป็นตัวปลอม ทันทีที่มุคุโร่ตัวปลอมกำลังจะบอกเป้าหมายของมุคุโร่ ก็โดนเข็มพิษจากจิคุสะลอบยิงใส่ จากนั้นมุคุโร่ตัวปลอมจึงบอกชื่อว่า ลันเชีย เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีกระสุนดับเครื่องชนแล้ว มุคุโร่ตัวจริง จึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ สึนะจึงโกรธและบุกไปหามุคุโร่ในโกคุโยคอมเพล็กซ์ พวกสึนะได้พบกับจิคุสะแล้วโกคุเทระก็อาสาสู้ด้วยแต่แล้ว เคนก็มาช่วยจิคุสะ เมื่อโกคุเทระอยู่ในสภาวะอันตราย ฮิบาริก็เข้าไปช่วยแล้วจึงไปช่วยสึนะ จึงรวมพลังกันเพื่อสู้กับมุคุโร่แต่ฮิบาริสลบไปก่อน ในระหว่างที่สู้กันอยู่ เมื่อมุคุโร่เสียเปรียบจึงยิงปืนฆ่าตัวตาย ทันใดนั้นเอง เบียงกี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมา แล้วเข้าทำร้ายโกคุเทระ รีบอร์นจึงรู้ว่ามุคุโร่ใช้กระสุนพิเศษที่มีชื่อว่า"กระสุนสิงสู่"ซึ่งเป็นกระสุนต้องห้าม (กระสุนพิเศษที่ทางวงการมาเฟียได้สั่งห้ามใช้เป็นอันขาด) ทำให้สามารถสิงได้ต่อเมื่อโดนหอกสามง่ามของมุคุโร่ ทำให้สึนะต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทว่า เลออนได้ฟักออกจากดักแด้ขึ้นมาพร้อมๆกับอาวุธให้สึนะคือX-GLOVE (ดูจากภายนอกเหมือนถุงมือไหมพรมทั่วๆไป) พร้อมกระสุนเสียงบ่น จึงปะทะกับมุคุโร่อีกครั้งด้วยX-GLOVEและกระสุนเสียงบ่นที่ทำให้เข้าสู่โหมดใหม่"โหมดไฮเปอร์"จนเอาชนะมุคุโร่ได้ ส่วนมุคุโร่ถูกวีดีเซ่ คือ กลุ่มที่คอยจับตัวคนที่ทำความผิดที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ในวงการมาเฟียจับตัวกลับไปพร้อมกับพรรคพวก แต่ในตอนท้ายมุคุโร่ได้สิงร่างเด็กผู้ชายที่มีชื่อเล่นว่า"ม่าคุง"
ข้อมูลจากเว็บวิกิพีเดีย