วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บ่อน้ำพุร้อน Onsen

ประเทศญี่ปุ่น มีภูเขาไฟมากมายที่ยังคุอยู่มากมายหลายลูก แม้แต่ภูเขาที่มีชื่อเสียงอย่างภูเขาฟูจิ ก็เป็นภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่จนกระทั่งยุคกลางด้วยเหตุนี้จึงมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ทั่วทุกแห่งของประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบการอาบน้ำพุร้อนมาตั้งแต่สมัยโบราณจนกลายเป็นวิถิชีวิตของชาวญี่ปุ่นเรื่อยมา หลายแห่งเป็นน้ำพุร้อนบริสุทธิ์ (ในบางพื้นที่เมื่อแก่นโลกเย็นตัวลง และปล่อยแก๊สและไอน้ำออกมาจนกระทั่งกลายเป็นน้ำพุร้อน)
กฏหมายว่าด้วยเรื่องสถานพักผ่อนน้ำพุร้อนบัญญัติขึ้นในปีโชวะที่ 23 ระบุไว้ว่า 1. อุณหภูมิของน้ำจะต้องสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส 2. น้ำพุร้อนจะต้องมีแร่ธาตุผสมอยู่เป็นจำนวน 1 กก.ดังนั้น ถ้าหากแหล่งน้ำนั้นมีมาตรฐานตรงกับทั้งสองข้อ ก็ถือได้ว่าเป็นน้ำพุร้อน
สถานที่อาบน้ำพุร้อนมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแร่ธาตุในน้ำ ให้คุณสมบัติใน การรักษาต่างกัน รวมถึงสี และกลิ่น ส่วนมากน้ำพุร้อนจะมีธาตุกัมมะถัน บ่อน้ำพุร้อนมีทั้งในร่มและกลางแจ้ง แต่ละที่เล็กใหญ่ต่างกันไป บ่อกลางแจ้งบางแห่งตั้งอยู่ระหว่างภูเขา หุบเขา หรือเลียบฝั่งแม่น้ำ มีทั้งแบ่งชายหญิงและบ่อรวม
บ่ออาบน้ำประเภทอื่นๆเช่น บ่อทราย ซึ่งผู้อาบจะถูกกลบด้วยทรายร้อน บ่อโคลน และห้องอบไอน้ำ นอกจากนี้ยังมี อะชิยุ เป็นบ่อน้ำร้อนตื้นๆ สำหรับแช่เท้า พบได้ตามทางเดินของสปารีสอร์ทน้ำพุร้อนและสามารถแช่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การได้พักค้างคืนที่ เรียวกัง (ที่พักแบบญี่ปุ่น) ที่มีบริการน้ำพุร้อน ถือว่าเป็นประสบการณ์การอาบน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการมาเยือนญี่ปุ่น โดยปกติแล้ว การมาเยือนเรียวกังที่มีบริการน้ำพุร้อนจะเริ่มจากการอาบน้ำก่อนรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารเย็นแบบญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ รวมถึงอาหารขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะอาบน้ำอีกครั้งก่อนเข้านอนและก่อนรับประทานอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น
ถ้าหากรู้สึกอึดอัดกับการอาบน้ำร่วมกับผู้อื่น ก็สามารถใช้บริการแบบ คะชิคิริ บ่ออาบน้ำส่วนตัว หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า คะโซคุบุโระ ซึ่งเป็นบ่ออาบน้ำสำหรับครอบครัว
การปฏิบัติระหว่างอาบน้ำพุร้อนในที่ร่ม ก่อนอื่นถอดเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อและเก็บเสื้อผ้าพร้อมกับผ้าเช็ดตัวลงในตระกร้าที่จัดเตรียมให้ ตู้เก็บเสื้อผ้ามักจะเป็นตู้หยอดเหรียญ การอาบน้ำพุร้อนแบบญี่ปุ่นมักจะเปลือยจนหมด และไม่อนุญาตให้ใช้ชุดว่ายน้ำ อย่างไรก็ตาม สามารถนำผ้าผืนเล็กเข้าไปในห้องอาบน้ำได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเมื่ออาบน้ำพุร้อนกลางแจ้ง
หลังจากเข้าห้องอาบน้ำแล้ว ล้างตัวในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้ ปกติแล้วไม่ควรยืน จากนั้นเข้าไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน สังเกตว่าน้ำอาจจะร้อนมาก (ประมาณ 40-44 องศาเซลเซียส) ถ้าหากรู้สึกว่าร้อนเกินไป พยายามลงแช่ตัวช้าๆ และเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด หลังจากแช่น้ำซักพัก ให้ขึ้นอาบน้ำถูสบู่ เช่นเดียวกับห้องอาบน้ำแบบญี่ปุ่น ควรระวังไม่ให้สบู่ลงไปผสมกับน้ำแร่ในบ่อ ปกปิดร่างกายด้วยผ้าผืนเล็กและลงแช่น้ำแร่อีกครั้ง เมื่อแช่ตัวเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องล้างตัวอีกครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากน้ำแร่อย่างเต็มที่
บ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม บางแห่งล้อมรอบด้วยภูเขา เช่น ชิเรโทโกะ และใน ภูมิภาคโทโฮคุ ชาวนามักจะอาบน้ำพุร้อน ในช่วงฤดูหนาวหลังการเก็บเกี่ยว หรือเวลาว่างจากการทำงาน เพื่อเป็นการฟื้นฟูสุขภาพภายหลังจากการทำงานหนัก
น้ำตกคะมุอิวักกะ เป็นกระแสน้ำอุ่นที่ไหลจากภูเขาที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ บนเกาะฮอกไกโด นักท่องเที่ยวต้องขึ้นเขาประมาณ 20 นาที จะพบกับน้ำตก ใต้น้ำตกลงมาเป็นบ่อน้ำแร่
ฮอกไกโด โนโบริเบะทจึ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นที่ตั้งของ โนโบริเบะทจึ ออนเซน, คะรุรุซึ ออนเซน, โนโบริเบะทจึ รินไก ออนเซน
นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ที่หลากหลาย เช่น ทะเลสาบ แอ่งน้ำ เป็นต้น จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติชิโกทจึ-โทยะ น้ำแร่ของที่นี่มีคุณสมบัติช่วยในการรักษาโรค เป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในโลก
อะคิอุออนเซน ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของจังหวัดมิยะหงิ เลียบชายฝั่งแม่น้ำนะโทริงะวะ ซึ่งไหลจากอ่าวเซนไดลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นน้ำพุร้อนที่เก่าแก่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6
ถึงแม้ย่านอะคิอุ จะอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเมืองเซนได แต่ร้อยละ 90 ของเมือง เป็นภูเขาและป่า นอกจากนี้ มีโรงแรมสมัยใหม่มากมาย ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวชะอุ่ม
สปารีสอร์ทฮาวาเอียน ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบฤดูร้อนตลอดทั้งปี มีพื้นที่กว้างเท่ากับหกเท่าของโตเกียวโดม รวมทั้งสวนสนุกอีก 5 แห่งด้วยกัน
เอโดะ โจวะ โยอิจิ เป็นสวนสนุกที่เน้นการอาบพุร้อนธรรมชาติกลางแจ้ง โดยมีลักษณะเด่นคือมีโรงอาบน้ำที่เลียนแบบมาจากโรงอาบน้ำสมัยเอโดะ
บ่อน้ำพุร้อนยักษ์ บ่อหลักมีความยาวถึง 50 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับเรือใบขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า "เรือสวรรค์"
สไลเดอร์ มีด้วยกัน 5 ช่อง สามารถเล่นได้สามแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบท่อสไลเดอร์ สไลเดอร์เดี่ยว หรือสไลเดอร์เป็นคู่ รวมทั้งเลือกระดับความชันของสไลเดอร์ได้ด้วยเช่นกัน
อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ ในจังหวัดคะนะงะวะ อยู่ห่างจากเมืองโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 2 ชม. สามารถชมหน้าผาสูง หุบเขาลึก ลำธารใส ชายฝั่งทะเลสาบอะชิ และบ่อน้ำพุร้อนมากมายหนึ่งในที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
เนื่องจากมีน้ำพุร้อนที่มีลักษณะเด่นแตกต่างกันถึง 17 แห่ง ฮาโกเน่จึงได้ชื่อว่า "ฮาโกเน่ 17 โตะ" (17 น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง แห่งฮาโกเน่) เช่น ยูโมโตะ, โทโนซะวะ, โซโคคุระ, ดะกะชิมะ, คิกะ และ อะชิโนยุ ทั้งหมดตั้งอยู่เลียบแม่น้ำฮะยะ บริเวณศูนย์กลางของแคว้นฮาโกเน่ ยกเว้น อะชิโนยุ
ฮาโกเน่ โควะคิเอน ยูเนซัน เป็นสปารีสอร์ทน้ำพุร้อน และสวนสนุกน้ำ ในบรรยากาศ และทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของฮาโกเน่ เป็นการผสมผสานระหว่างประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของออนเซน กับกิจกรรมและการบริการสันทนาการทางน้ำ
ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นสถานที่ที่มีน้ำพุร้อนที่มีคุณภาพดีอยู่เป็นจำนวนมากในฮาโกเน่ ความพิเศษของฮาโกเน่ โควะคิเอน ยูเนซัน คือ แบ่งสถานพักผ่อนที่มีบริการน้ำพุร้อน และสวนสนุก ออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ
โซนแรกเรียกว่า ยูเนซัน สปา รีสอร์ท เหมาะสำหรับผู้คนทั่วไปและครอบครัว ที่ต้องการใส่ชุดว่ายน้ำลงในแช่น้ำ นอกจากนี้ฮาโกเน่ยังได้ขึ้นชื่อว่ามีรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น
สปาเดดซี เป็นน้ำที่ผสมเกลือจากทะเลเดดซีในตะวันออกกลาง เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายและจิตใจ โดยลอยตัวอยู่ในอ่างน้ำร้อน เกลือจากเดดซีอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
สปาสาเก เป็นถังไม้ขนาดใหญ่ที่บรรจุสาเกญี่ปุ่นแท้ กล่าวกันว่าสาเกช่วยให้ผิวสวย อีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาได้ในประเทศญี่ปุ่น
สปาชาเขียว มีส่วนผสมของชาเขียวอยู่จริง ตกแต่งด้วยกาน้ำชาขนาดใหญ่สูง 2 เมตร ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น น้ำชานี้มาจากตีนเขาทันซะวะ และฮาโกเน่ ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นที่ที่มีอากาศเหมาะแก่การปลูกชา
ชาที่ปลูกในแถบนั้นจะมีกลิ่นหอมและมีสารที่ช่วยป้องการการเกิดเนื้องอก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี
สปากาแฟ เป็นสปาพิเศษที่หาได้แห่งเดียวที่ยูเนซัน เป็นกาแฟจริงที่นำมาทำให้เป็นน้ำพุร้อน กล่าวว่ากาแฟมีคุณสมบัติในการรักษาแผลเป็น และเพิ่มความงามให้กับผิวพรรณ และกลิ่นของกาแฟช่วยให้กระปรี้กระเปร่า
สปาไวน์ เป็นไวน์แดงจริง ตกแต่งด้วยขวดไวน์ใหญ่สูง 3.6 เมตร การลงแช่ในไวน์ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับร่างกาย กล่าวกันว่าพระนางคลีโอพัตราชื่นชอบในการอาบน้ำด้วยไวน์
อีกโซนหนึ่งเรียกว่า โมริ โนะ ยุ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนได้โดยไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ และดื่มด่ำกับการบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ
คินุงะวะออนเซน ตั้งเลียบฝั่งแม่น้ำในหุบเขา ซึ่งทอดยาวระหว่าง ภูเขาไดฮุยกะซัน และ ภูเขาชาคะงะทาเคะ เหนือ แม่น้ำคินุงะวะ เป็นศูนย์กลางของ เมืองโทจิหงิ ซึ่งมีการเปิดสปาเป็นครั้งแรก เมื่อ 300 ปีก่อน ทิวทัศน์ของหุบเขาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
เมืองอะตะมิ และ เมืองอิโตะ ตั้งอยู่ที่ปลาย คาบสมุทรอิซุฮันโต สองเมืองนี้หันหน้าออกสู่ อ่าวซะงะมิ เป็นย่านโรงแรมทันสมัย ที่พักแบบญี่ปุ่นที่มีประวัติเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ตั้งเรียงรายติดกับแหล่งบันเทิงมากมาย ส่งให้ทั้งสองเมืองนี้กลายเป็นหนึ่งในสปารีสอร์ทชั้นนำของญี่ปุ่น
เกโระออนเซน ตั้งอยู่ทางตะวันออกกลางของจังหวัดกิฟุ ติดกับชายแดนเมืองนางะโนะ เป็นสปาที่รู้จักกันดีตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 จัดว่าเป็นหนึ่งในสามแหล่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงในเรื่องบรรเทาโรคไขข้อ ไปตาม เส้นทางยุเมจิน ยุเมงุริ เทงะตะ จะพบบ่อน้ำพุร้อนได้มากกว่า 3 แห่ง หลายทศวรรษที่ผ่านมา น้ำพุร้อนจำนวนมากของ คุซะทจึ ออนเซน ในจังหวัดกุมมะ ได้รับการขนานนามว่า เป็นน้ำพุร้อนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในญี่ปุ่น แม้ไม่ดีที่สุด น้ำในรีสอร์ทส่วนใหญ่ผุดเป็นฟองขึ้นไปในบริเวณ "ยูบาทาเกะ" (ทุ่งน้ำร้อน)
บริเวณศูนย์กลางของเมือง เชื่อกันว่าน้ำพุร้อนนี้ช่วยรักษาโรคทุกชนิด ยกเว้นโรคทางใจ
โดโงะออนเซ็น เป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุด ตั้งอยู่บริเวณ ชานเมืองมะทจึยะมะ บนเกาะชิโคคุ สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ คือ โดโงะออนเซ็น ฮอนกัน ที่อาบน้ำสาธารณะทำจากไม้สมัยเมจิ นับตั้งแต่ปี 1894 นอกจากการอาบน้ำ ยังมีการเสิร์ฟชา และขนมหวานญี่ปุ่นที่มีความซับซ้อนและสง่างาม ภายในห้องส่วนตัวซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายหลังจากการอาบน้ำ
เมืองเบปปุ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนหลักของญี่ปุ่น ในจังหวัดโออิตะ ไม่มีรีสอร์ทใดที่สามารถผลิตน้ำพุร้อนได้มากกว่าที่นี่ ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวของเบปปุ ยังมี "เฮลส์" บ่อน้ำพุร้อนจัดซึ่งไม่เหมาะแก่การลงแช่ จิโงคุ หรือ "เฮลส์" ในเมืองเบปปุ เป็นน้ำพุร้อน 9 แห่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เหมาะสำหรับชื่นชมมากกว่าการลงแช่
เมืองยุฟุอิน ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของจังหวัดโออิตะ เป็นส่วนต่อขยายจากเขตแดนของ อ่างเก็บน้ำยุฟุอิน ซึ่งมี แม่น้ำโออิตะงะวะ เป็นแหล่งกำเนิด ภูเขายุฟุ รู้จักกันในชื่อ บุงโงะฟุจิ
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำ โรงแรมที่สร้างมาเป็นเวลานาน พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเอกลักษณ์, แกลลอรี่ส์ขนาดเล็ก, ร้านอาหารที่ทันสมัย และร้านกาแฟ ทั้งหมดผสมผสานรวมอยู่ใน ย่านยุฟุอินโจ สร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหลไปทั่วบริเวณ
อิบุซึกิออนเซ็น เป็นน้ำพุร้อนรวม กลางแจ้ง ซึ่งไม่เหมือนน้ำพุร้อนทั่วไปที่มีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ห้องเดียว แต่ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนที่ไม่ใช้น้ำ อิบุซุกิออนเซ็นเป็น การอบทรายร้อน
ซึ่งผู้มาใช้บริการต้องฝังร่างกายอยู่ในทรายร้อน และผ่อนคลายนานเท่าที่ต้องการ แม้ว่าน้ำพุร้อนนี้จะรวมชายหญิง แต่สุภาพสตรีไม่จำเป็นต้องรู้สึกอายเพราะทุกคนต้องใส่ชุดยูกาตะ
ยุดะนะคะ และชิบุ ออนเซ็น เป็นน้ำพุร้อนสองแห่งที่โด่งดังมากที่สุดกว่าครึ่งหนึ่ง ในน้ำพุร้อน 12 แห่งที่รวมอยู่ใน เมืองยะมะโนอุจิ ทางตอนเหนือของเมืองนางะโนะ บริเวณนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่อง "ลิงหิมะ" ซึ่งเป็นลิงญี่ปุ่นที่ชอบน้ำร้อนธรรมชาติเช่นเดียวกับผู้มาเยี่ยมชม
น้ำพุร้อนที่มนุษย์สามารถใช้ได้จะพบเมื่อลงจากหุบเขาต่อไปอีก โคระคุคัน เป็นเรียวกังที่มีบริการน้ำพุร้อน ที่ทำจากไม้ ตั้งอยู่ในบริเวณด้านล่างของสวนลิง
ข้อมูลจากSanook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น